บทนำ
จึงจำเป็นต้องศึกษาในเรื่องโลกของมดทั้ง
4 ชนิดเป็นมดที่อยู่ใกล้ตัวเรามากและ
ในสมัยนี้ไม่ค่อยมีคนรู้จัก
ถ้าปล่อยให้ไม่มีคนรู้จักมดพวกนี้ต่อไปมดพวกนี้ก็จะสูญพันธ์
ละทำให้ธรรมชาติขาดสมดุลทางกายภาพได้ โดยที่เราอาจจะไม่ทันคิด
วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า
1.)ศึกษาการดำเนินชีวิตของมดสายพันธุ์ต่างๆ
2.)ศึกษาสาพันธุ์ของมดทั้ง
4 ชนิด
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.) เพื่อให้นักเรียนได้นำรายงานวิจัยกลุ่มนี้ไปใช้ประกอบการเรียน
การศึกษา
2.) ได้ศึกษาโครงสร้างลักษณะของมดตามสายพันธุ์
การศึกษาเอกสารและงานที่เกี่ยวของ
1.) ลักษณะของมด
2.) สังคมการสื่อสารของมด
3.) อาหารของมด
4.) การดำรงชีวิตของมด
วิธีการดำเนินงานวิจัย
1.) กำหนดประเด็นปัญหาในการวิจัย
เรื่องโลกของมดในประทศไทย
-ช่วยกันคิดประเด็นปัญหาว่าจะทำเรื่องอะไร
สุดท้ายก็ได้ เรื่อง โลกของมดในประเทศไทย
2.) ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวกับเรื่องโลกของมดในประเทศไทย
-ศึกษาเอกสารจากห้องสมุดโรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง
และจากเว็บไซต์ต่างๆ
3.) เริ่มเขียนโครงงานวิจัย
-เริ่มเขียนให้มีตัวอย่างในการทำรูปเล่มรายงาน
-กำหนดหัวข้อในของประเด็นปัญหา
4.) เก็บรวบรวมขอมูลของแต่ละหัวข้อ
5.) วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูล
-และส่งให้คุณครูช่วยตรวจทาน
6.) เขียนรายงานวิจัย
7.) การตรวจทานรายงาน
-ส่งให้คุณครูช่วยตรวจทาน
8.) การปรับปรุงรายงานวิจัย
-ส่งให้ครูตรวจเพื่อรอการนำเสนอ
9.) การนำเสนอและเผยแพร่
สรุปผลการศึกษาค้นคว้า
มด คืออะไร ?
มดเป็นแมลงจัดอยู่ในชั้น Insecta ในไฟลัม Arthropoda เป็นพวกเดียวกบผึ้ง
ต่อ แตน ใน
อันดับ Hymenoptera มดจัดอยู่ในวงศ์
Formicidae
มีส่วนที่แตกต่างจากแมลงพวกอื่นที่ชัดเจน
คือ มดมีส่วนเอว อาจมี 1
หรือ 2 ปล้อง ส่วนเอวแท้จริงคือ ท้องปล้องที่ 2 และ/หรือ ปล้องที่ 3 ม
ลักษณะเป็นตุ่ม หรือ เป็นท่อ
มดมีปากแบบกัดกิน
หนวดแบบหักข้อศอก
ตารวมมีขนาดใหญ่ถึง
ขนาดเล็กมากหรือไม่มี ปลายส่วนท้องอาจมีเหล็กไนหรือไม่มี
ครอบครัวของมด
มดจัดเป็นแมลงสังคมแท้จริง ดังนั้นภายในครอบครัวประกอบด้วย แม่รัง
(queen) และ
ลูกๆที่มีอายุลดหลั่นกันส่วนใหญ่ประกอบด้วยมดงาน (worker) ซึ่งเป็นเพศเมียแต่เป็นหมัน บาง
ช่วงอาจพบมดตัวผู้ (male) มีปีกและมดเพศเมีย (female) มีปีก มดเหล่านี้ทำหน้าที่สืบพันธุ์สร้าง
ครอบครัวใหม่ แม่รังจะมีหน้าที่วางไข่ ขณะที่มดงานจะมีหน้าที่ดูแลไข่ ตัวอ่อน
ดักแด้ และแม่รัง
รูปร่างทั่วไปของมด ทำความสะอาดและซ่อมแซมรัง หาอาหาร
เป็นต้น ภายในครอบครัวหนึ่งมีจำนวนประชากร แตกต่างกัน มีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยตัวไปจนถึงเป็นล้านๆตัว
ขึ้นอยู่กับชนิดและอายุของแม่รัง
การสร้างครอบครัวของมดเริ่มต้นโดย
มดตัวผู้ออกจากรังแล้วปล่อยสารเคมีเรียกมดตัวเมีย
มีปีกอีกรังหนึ่งเพื่อจับคู่ผสมพันธุ์ หลังจากผสมพันธุ์แล้ว ตัวผู้จะตายในเวลาต่อมา
ส่วนตัวเมียจะหา
ที่สร้างรังแล้วสลัดปีกทิ้ง ตรงจุดนี้จะเริ่มเรียกวา แม่รัง แล้วรีบวางไข่รุ่นที่
1 ทันที ไข่รุ่นนี้จะฟักเป็น
มดงานทั้งหมด เพื่อจะช่วยกันสร้างรัง
หาอาหาร จากนั้นก็วางไข่รุ่นต่อๆมา จนกระทั่งมีมดงานเป็น
จำนวนพอเพียง แล้วจึงเริ่มผลิตมดตัวผู้และตัวเมียมีปีก เป็นแบบนี้เรื่อยไป
![]() |
ราชินีมด |
ถิ่นอาศัยของมด
มดเป็นแมลงที่มีถิ่นอาศัยหลากหลายลักษณะ
ได้แก่ อาศัยอยู่ใต้ดิน ตามพื้นดินใต้ใบไม้
ใต้ก้อนหิน ใต้ขอนไม้ ในขอนไม้ผุ ตามลำต้นต้นไม้ หรือตามเรือนยอด
รวมไปถึงตามอาคารบ้านเรือน
อีกด้วย โดยทั่วไป มดสร้างรังได้ 2 แบบ
คือ รังอย่างง่ายกับรังแบบซับซ้อน ส่วนใหญ่มดสร้างรัง
แบบซับซ้อนซึ่งภายในรังจะมีการแบ่งออกเป็นห้องๆ จะมีจำนวนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดและ
ขนาดประชากรมด
ไม่เคลื่อนย้ายรัง เช่น รังมดคันไฟ
รังมดแดง เป็นต้น ส่วนรังอย่างง่ายนั้นจะมี
การเคลื่อนย้ายอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีการแบ่งเป็นห้องๆ
ส่วนมากอาศัยใต้ใบไม้หรือโพรงตามพื้นดิน
รวมถึงรอยแตกตามผนังหรือสวนอื่นๆของอาคารบ้านเรือน
![]() |
รังมดแดงบนต้นไม้ |
![]() |
รังมดคันไฟบนพื้นดิน |
การกินของมด
มดจัดเป็นแมลงที่กินสัตว์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์ขนาดเล็ก เช่น
แมลงชนิดต่างๆ ไส้เดือน
ตะขาบ กิ้งกือ รวมไปถึงสัตว์อื่นๆขนาดเล็ก เช่น กบ เขียด ลูกนก งู เป็นต้น
มดบางชนิดอาจกินเมล็ด
พืชหรือเชื้อรา นอกจากนี้ มดยังกินน้ำตาลที่ได้จากส่วนต่างๆของพืช เช่น ต่อมที่ใบ ดอก หรือผล
หรือจากแมลงบางชนิดที่สามารถขับถ่ายของเหลวที่มีน้ำตาล เช่น
เพลี้ยอ่อน เพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง
หนอนผีเสื้อกลางวันบางชนิด เป็นต้น บางคนชอบเรียกวา มดเลี้ยงเพลี้ย น้ำตาลถือเป็นแหล่ง
พลังงานสำหรับมดงานเป็นหลัก
การให้อาหารแก่กันของมดมีลักษณะคล้ายมดจูบกัน (kissing)
โดยมดตัวที่มีอาหารจะสำรอกอาหารออกมาแล้วมดตัวที่ต้องการอาหารจะยื่นปากเข้าไปประกบเพื่อ
รับอาหาร จากตรงนี้จึงทำให้ทราบได้เลยว่ามดส่วนใหญ่เข้าบ้านเพื่อหาอาหาร รวมถึงน้ำตาลที่ได้
จากของหวานหรือขนมหวานต่างๆด้วย
การสื่อสารของมด
แมลงสังคมจะมีจุดเด่นในเรื่องการติดต่อสื่อสารอย่างชัดเจน กรณีของมดจะมีการ
ติดต่อสื่อสารโดยทั่วไป 2
แบบ คือ การใช้สารเคมีที่เรียกว่า ฟีโรโมนและหนวดเป็นหลัก การใช้
สารเคมีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเตือนภัย การจับคู่ผสมพันธุ์ การหาอาหาร
เป็นต้น ส่วนหนวดนั้นจะ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการดมกลิ่น การขออาหาร
หนวดของมดจะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
จนทำให้เกิด
เป็นภาษาหนวดมดขึ้นมา
![]() |
มดสื่อสารกันด้วยหนวด |
ลักษะของมด
มดคันไฟ - มีลักษณะสีเหลืองแดง
มีขนที่หัวและตัว หนวดมี 10 ปล้อง อกแคบ เห็นชัดเจน มี 2
ปุ่ม ท้องรูปไข่มีลายขวางสีน้ำตาล มีเหล็กใน
ทำรังอยู่ใต้ดินที่ร่วนซุยโดยดินทรายรังหนึ่งๆ มีรูทางเข้าออก เล็กๆ
บนพื้นดินได้หลายรู กินแมลงและซากสัตว์เล็กๆ เป็นอาหาร มดคันไฟใช้เหล็กในต่อย
ผู้ถูกต่อย จะรู้สึกเจ็บแสบคล้ายถูกไฟลวกจึงเรียกมดคันไฟ
หลังจากถูกต่อยจะมีอาการบวมแดงขยายกว้างขึ้น
และจุดที่ถูกต่อยจะใสคล้ายถูกไฟลวกและจะมีอาการคัน
มากเมื่อเกาผิวหนังจะบวมแดงแผ่กว้างขึ้น
มดดำ - มีลักษณะมีสีน้ำตาลเข้มบางส่วนสีดำ
ขนสีน้ำตาลเหลืองปกคลุมอยู่ทั่วไป หนวดมี 12 ปล้อง
ลักษณะยาวเห็นได้ชัด อกแต่ละปล้องมีเส้นแบ่งชัดเจน ขายาวมาก มี 1 ปุ่ม เป็นรูปไข่นูนเล็กน้อย ท้องรูปไข่
พบเห็นทั่วไปทั้งในที่อยู่อาศัยและภายนอกบ้าน มดงานออกหากินไกลออกไปจากรัง ดังนั้น
จึงยากที่จะควบคุมมดชนิดนี้ทั้งรัง
เป็นมดที่เคลื่อนที่ได้เร็วมากโดยไม่ติดตามฟีโรโมนของมดตัวอื่นๆ
พบแพร่กระจายอยู่ทั่วโลกบางครั้งอาจจะพบเห็นมดชนิดนี้ขนย้ายไข่
มดชนิดนี้จะไม่ทำอันตรายคน แม้ถูกรบกวน
มดดำเป็นมดที่ทำให้เกิดความรำคาญมากกว่าอันตราย
มดแดง - มีลักษณะสีแดงเข้ม
หัวและส่วนอกมีขนเส้นเล็กๆ หนวดมี 12 ปล้อง
อกยาวโค้งคอดคล้าย อาน กลม ขาเรียวยาว ทำรังบนต้นไม้ใหญ่ เช่น ต้นมะม่วง ชมพู่
โดยใช้ใบเหล่านี้ประกอบเป็นรัง
โดยตัวอ่อนจะปล่อยสารเหนียวออกมาเชื่อมใบไม้ให้ประกบกัน
เมื่อพบเหยื่อจะทำร้ายเหยื่อโดยการกัด และฉีดสารพิษออกทางปลายท้อง
เมื่อเหยื่อได้รับบาดเจ็บจะช่วยกันลากกลับรัง มดแดง เมื่อถูกรบกวน จะทำอันตรายคนโดยการกัดผู้ถูกกัดจะรู้สึกเจ็บปวดมาก
ต่อมาจะเกิดอาการบวมคัน
มดตะนอย – มีลักษณะสำคัญสีดำปนน้ำตาลเหลือง
มีขนกระจายบางๆ ไม่เป็นระเบียบ หนวด 12 ปล้อง อกยาว กว้าง
เล็กแบน รูปไข่นูน ท้องรูปไข่เล็กปลายแหลมโค้ง มีเหล็กในที่ปลาย ทำรังอยู่ในต้นไม้
ใหญ่ที่ตายแล้ว เช่น ต้นก้ามปู ทำให้ต้นไม้เป็นโพรงอยู่ภายใน
หากินบนต้นไม้และพื้นดินใกล้เคียง เป็นพวกกินเนื้อเป็นอาหาร
มดตะนอยจะต่อยโดยใช้เหล็กใน ผู้ถูกต่อยจะปวดคล้ายถูกผึ้งต่อยเหล็กใน
จะทำให้เกิดความเจ็บปวดและอาการบวม ต่อมาจะคันมาก
อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
จากการที่คณะทีมวิจัยของข้าพเจ้าได้ทำการศึกษาค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับโลกของมดในประเทศไทยจึงได้ข้อสรุปว่า
มดจัดเป็นแมลงสังคม ในรังหนึ่งรังจะประกอบด้วย แม่รัง (Queen) มดงาน (worker) และตัวอ่อน มดชอบอาศัยอยู่ในที่ชื้นได้แก่ อาศัยอยู่ใต้ดิน
ตามพื้นดินใต้ใบไม้ ใต้ก้อนหิน ใต้ขอนไม้ ในขอนไม้ผุ
มดกินพวกสัตว์ตัวเล็กๆเช่น
แมลงชนิดต่างๆ ไส้เดือน ตะขาบ กิ้งกือ
รวมไปถึงสัตว์อื่นๆขนาดเล็ก เช่น กบ เขียด ลูกนก งู เป็นต้น และผลไม้เป็นอาหาร มดติดต่อสื่อการกันด้วย ภาษาหนวดมด และ
สารเคมีฟีโรโมน การใช้สารเคมีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเตือนภัย การจับคู่ผสมพันธุ์ การหาอาหาร
เป็นต้น โดยลักษณะของมด 4 ชนิดมีดังนี้
-มดแดง มีลักษณะสีแดงเข้ม
หัวและส่วนอกมีขนเส้นเล็กๆ หนวดมี 12 ปล้อง
อกยาวโค้งคอดคล้าย อาน กลม ขาเรียวยาว ทำรังบนต้นไม้ใหญ่
-มดดำ
มีลักษณะมีสีน้ำตาลเข้มบางส่วนสีดำ
ขนสีน้ำตาลเหลืองปกคลุมอยู่ทั่วไป หนวดมี 12 ปล้อง
ลักษณะยาวเห็นได้ชัด อกแต่ละปล้องมีเส้นแบ่งชัดเจน ขายาวมาก มี 1 ปุ่ม เป็นรูปไข่นูนเล็กน้อย ท้องรูปไข่
พบเห็นทั่วไปทั้งในที่อยู่อาศัยและภายนอกบ้าน
-มดคันไฟ
มีลักษณะสีเหลืองแดง มีขนที่หัวและตัว หนวดมี 10 ปล้อง อกแคบ เห็นชัดเจน มี 2 ปุ่ม
ท้องรูปไข่มีลายขวางสีน้ำตาล มีเหล็กใน
ทำรังอยู่ใต้ดินที่ร่วนซุยโดยดินทรายรังหนึ่งๆ มีรูทางเข้าออก เล็กๆ
บนพื้นดินได้หลายรู
-มดตะนอย
มีลักษณะสำคัญสีดำปนน้ำตาลเหลือง มีขนกระจายบางๆ
ไม่เป็นระเบียบ หนวด 12 ปล้อง อกยาว กว้าง เล็กแบน รูปไข่นูน
ท้องรูปไข่เล็กปลายแหลมโค้ง มีเหล็กในที่ปลาย ทำรังอยู่ในต้นไม้ ใหญ่ที่ตายแล้ว
เนื่องจากงานวิจัยครั้งนี้จัดทำเพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้นำรายงานวิจัยเล่มนี้ไปประกอบการเรียนการศึกษา
รายงานนี้อาจจะมีข้อมูลบางส่วนไม่ตรงกัน เนื่องจากข้อมูลที่เราสืบค้น
มาจากหลายๆแหล่ง
ถ้าข้าพเจ้าได้ทำการจัดทำรายงานวิจัยเล่มใหม่ข้าพเจ้าและคณะจะทำการศึกษา
โครงสร้างของ-
รูปแบบงานวิจัยและจะศึกษาข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
เนื้อหาเยอะได้ความรู้เต็มๆๆค่ะ
ตอบลบมีประโยชน์มากครับ ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลย ขอบคุณครับ
ตอบลบได้ประโยชน์และได้รับความรู้เกี่ยวกับมดเยอะเลยค่ะ
ตอบลบได้ความรู้ดีดีเยอะเลยค่ะ
ตอบลบเนื้อหาน่าสนใจมากๆ ได้ความรู้เกี่ยวกับมดมากมายเลยค่ะ
ตอบลบได้สาระมาก ความรู้แต็ม ขบคุณค่ะ
ตอบลบได้รู้เกี่ยวกับมดเยอะมาก
ตอบลบเรื่องมดน่าสนใจมากคะ เก๋ๆ
ตอบลบเรื่องมดใกล้ตัวและน่าสนใจค่ะ รักมดค่ะ :))
ตอบลบน่าสนใจมากค่ะ
ตอบลบมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องมดเพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
ตอบลบได้ความรู้มากคะ น่าสนใจ ขอบคุณมากคะ
ตอบลบ